ปฎิทิน

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ซากซุปเปอร์โนวา SN1987A

       เศษซากของซุปเปอร์โนวา 1987A กำลังเริ่มชนกับวงแหวนก๊าซรอบข้างสร้างเป็นคลื่นกระแทกทรงพลังที่เปล่งรังสีเอกซ์ออกมาซึ่งสำรวจได้โดยหอสังเกตการณ์รังสีเอกซ์จันทรา รังสีเอกซ์กำลังอาบไล้เศษซากซุปเปอร์โนวาและความร้อนจากการกระแทกกำลังทำให้มันเรืองในช่วงตาเห็นได้


    นักวิจัยพบว่าซุปเปอร์โนวาใหม่แห่งหนึ่งกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อกลายเป็นซากซุปเปอร์โนวา
ในปี 1987 แสงจากดาวที่ระเบิดดวงหนึ่งในกาแลคซีเพื่อนบ้านแห่งหนึ่งคือ เมฆแมกเจลแลนใหญ่(Large Magellanic Cloud) ได้มาถึงโลก มันมีชื่อว่าซุปเปอร์โนวา 1987A เป็นการเกิดซุปเปอร์โนวาที่ใกล้ที่สุด(ที่ 165,000 ปีแสง) เท่าที่เคยสังเกตพบในรอบเกือบ 400 ปี ช่วยให้นักดาราศาสตร์ได้ศึกษามันในรายละเอียดเมื่อมันพัฒนาตัวไปด้วย
     และขณะนี้ทีมนักดาราศาสตร์ได้ประกาศว่าซุปเปอร์โนวาซึ่งจางแสงลงตามเวลากำลังสว่างขึ้น สิ่งนี้แสดงถึงแหล่งพลังงานที่แตกต่างออกไปได้เริ่มสาดแสงใส่ซาก และกลายเป็นการเปลี่ยนผ่านจากซุปเปอร์โนวาไปเป็นซากซุปเปอร์โนวา(supernova remnant) Robert Kirshner จากศูนย์ดาราศาสตร์ฟิสิกส์ฮาร์วาร์ดสมิธโซเนียน(CfA) กล่าวว่า ซุปเปอร์โนวา 1987A กลายเป็นซากซุปเปอร์โนวาที่มีอายุน้อยที่สุดที่เราได้เห็น งานวิจัยเผยแพร่ในวารสาร Nature วันที่ 9 มิถุนายน
     Kirshner นำทีมศึกษา SN1987A ระยะยาวด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลของนาซ่า ตั้งแต่มันถูกส่งออกสู่อวกาศในปี 1990 ฮับเบิลก็ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงของ SN1987A อย่างต่อเนื่อง ตามที่ปรากฏในภาพ SN1987A ถูกล้อมด้วยวงแหวนวัสดุสารที่ดาวต้นกำเนิดซุปเปอร์โนวาได้เป่าออกมาเมื่อหลายพันปีก่อนหน้าการระเบิด วงแหวนนี้มีขนาดกว้างประมาณ 1 ปีแสง ภายในวงแหวนนั้น ไส้ในของดาวฤกษ์กำลังวิ่งหนีออกมาในเมฆเศษซากที่ขยายตัว
     แสงของซุปเปอร์โนวาเกือบทั้งหมดมาจากการสลายตัวธาตุกัมมันตรังสีที่ถูกสร้างในการระเบิด ด้วยเหตุผลนี้ มันจึงจางแสงไปตามเวลา อย่างไรก็ตาม เศษซากจาก SN 1987A ได้เริ่มสว่างขึ้น ซึ่งบอกว่ามีแหล่งพลังงานใหม่มาทดแทน Kirshner กล่าวว่า ที่มองเห็นว่ามันสว่างขึ้นก็เพียงเพราะ SN 1987A อยู่ใกล้มากและฮับเบิลก็มีสายตาที่คมมากๆ
    ซากซุปเปอร์โนวาแห่งหนึ่งๆ จะประกอบด้วยวัสดุสารที่ถูกผลักออกจากดาวที่ระเบิด เช่นเดียวกับวัสดุสารในอวกาศที่มันกวาดมาด้วย เศษซากของ SN 1987A เริ่มจะปะทะกับวงแหวนรอบข้าง สร้างคลื่นกระแทกทรงพลังที่ผลิตรังสีเอกซ์ที่สำรวจได้โดยหอสังเกตการณ์รังสีเอกซ์จันทราของนาซ่า รังสีเอกซ์เหล่านั้นได้อาบแสงไปที่เศษซากของซุปเปอร์โนวาและความร้อนจากการกระแทกก็ทำให้มันเรืองขึ้น กระบวนการเดียวกันนี้ให้พลังงานกับซากซุปเปอร์โนวาอื่นๆ ในกาแลคซีของเราอย่าง แคสสิโอเปีย เอ(Cassiopeia A)
     เนื่องจากมันยังอายุน้อยมาก ซากของ SN 1987A จึงยังแสดงประวัติเมื่อหลายพันปีสุดท้ายของชีวิตดาวฤกษ์ที่บันทึกไว้ในปม(knots) และขด(whorls) ก๊าซ โดยการศึกษาสิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้น นักดาราศาสตร์อาจจะถอดรหัสความเป็นมาได้ ซากซุปเปอร์โนวาอายุน้อยมีลักษณะพิเศษ Kirshner บอก
     แม้ต่อมา ความเป็นมาจะสูญหายไปเมื่อเศษซากดาวที่กำลังขยายตัวทั้งปวงได้ชนกับวงแหวนรอบๆ และสลายมันทิ้งไป แต่กว่าจะถึงตอนนั้น SN 1987A ยังคงให้โอกาสพิเศษให้การเฝ้าดูเทหวัตถุดวงหนึ่งเปลี่ยนแปลงในช่วงชีวิตของมนุษย์ มีเทหวัตถุอีกเพียงไม่กี่แห่งที่พัฒนาไปได้ในช่วงเวลาที่สั้นเช่นนี้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น