ผิวขาวใส ใครๆก็ปรารถนา ครีมหน้าขาว จึงเป็นเครื่องสำอาง ที่เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อเราให้ผิวขาวขึ้นดังใจหวัง แต่รู้หรือไม่ว่า ครีมหน้าขาว อาจไม่ได้ทำให้ผิวสวยเสมอไป แต่อาจทำให้ผิวของคุณกลายเป็นผิวเสียได้เช่นกัน
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาว นั้นได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มหนุ่ม สวย เกือบทุกวัย ยิ่งทุกวันนี้ครีมผิวขาวยิ่งหาซื้อได้ง่ายทั่วไป และ มีการโฆษณาชวนเชื่อ จนเหลือเชื่อ ทำให้ผู้บริโภคความงามส่วนใหญ่ หลงเชื่ออย่างง่ายดายบริษัทเครื่องสำอาง จึงได้ทำการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งครีมที่ทำให้ผิวหน้าขาวใส ในปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้วางจำหน่ายอยู่มากมายในท้องตลาดซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีส่วนประกอบของสารสำคัญที่ทำให้ ผิวขาว แตกต่างกันไป
ไฮโดรควิโนน เป็นสารเคมีซึ่งเป็นที่นิยมในการนำมาเตรียมครีมที่ทำให้ หน้าขาว ในอดีตเนื่องจากเห็นผลได้เร็วไฮโดรควิโนน ออกฤทธิ์โดยการการยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีของผิวหนังหรือ ที่เรียกว่า เมลานิน จึงมีผลทำให้ ผิวขาว ขึ้นได้
การใช้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ ไฮโดรควิโนน นั้นควรใช้กับผู้ที่มีปัญหาฝ้าหรือ รอยด่างดำจากสิวที่รุนแรงและจะต้องมีเปอร์เซ็นต์ของตัวยาที่แน่นอนระบุอยู่นอกจากนี้ควรใช้ในระยะเวลาที่จำกัด ไม่ควรใช้นานเกินไปและไม่ควรหยุดใช้ยาทันทีเนื่องจากอาจจะทำให้ผิวคล้ำลงกว่าเดิมได้จากการที่ผิวหนังเร่งผลิตเซลล์เม็ดสีมาทดแทน
นอกจากนี้ ไฮโดรควิโนน เป็นสารที่ทำปฏิกิริยากับแสงแดดซึ่งหากทายาที่มีส่วนผสมของ ไฮโดรควิโนน แล้วไม่ทาครีมกันแดด ฝ้าจะดำกว่าเดิมได้
ในปัจจุบันนี้ ไฮโดรควิโนน ได้ถูกสั่งห้ามใส่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่วางจำหน่ายทั่วไปอย่างไรก็ตามในคลินิกที่จ่ายยารักษาฝ้าโดยแพทย์ยังสามารถจ่ายให้ผู้ป่วยได้ตามความเหมาะสมตามดุลยพินิจของแพทย์
การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ ไฮโดรควิโนน ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ เช่นการหาซื้อครีมทาฝ้ามาใช้เอง อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะผสม ไฮโดรควิโนน ในปริมาณสูงมากกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ 3-5%[สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้ผสมสาร ไฮโดรควิโนน ในการรักษาฝ้าได้ไม่เกิน 2%]ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ได้เริ่มจาก อาการระคายเคืองต่อผิวเกิดจุดด่างขาวที่หน้าผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวร รักษาไม่หายทำให้เกิดโรคผิวหนังขึ้นเกิดตุ่มนูนสีดำบริเวณโหนกแก้มและสันจมูกซึ่งเป็นบริเวณที่ทายาบ่อยๆหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานมากกว่า 6 เดือนจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อภายในผิวหนังทำให้เกิดเป็นฝ้าถาวรสีน้ำเงินอมดำได้ซึ่งอาจเกิดจากการที่ผิวหนังมีการปรับตัวให้สร้างเม็ดสีมากขึ้นรวมทั้งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
ที่มา:http://www.doctorcosmetics.com/read_content.php?id=1948&pagetype=product
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น